Fishbone Diagram หรือที่เรียกกันว่า ผังก้างปลา เป็นเครื่องมือที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้องค์กรสามารถมองเห็นถึง “ต้นตอของปัญหา” อย่างชัดเจน และนำไปสู่การแก้ไขอย่างยั่งยืน ไม่ใช่เพียงแค่แก้ไขอาการที่ปรากฏ

Fishbone Diagram คืออะไร?
แผนภูมิก้างปลา หรือ Fishbone Diagram เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการระบุและจัดกลุ่ม “สาเหตุของปัญหา” (Cause) เพื่อเชื่อมโยงกับ “ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น” (Effect) โดยมีลักษณะเป็นรูปคล้ายก้างปลา ซึ่งแต่ละก้างจะเป็นตัวแทนของสาเหตุในกลุ่มต่าง ๆ การใช้ผังนี้ทำให้สามารถวิเคราะห์ปัญหาได้อย่างเป็นระบบและรอบด้าน
มักใช้งานควบคู่กับเทคนิค 5 Whys เพื่อให้การขุดค้นหาสาเหตุลึกลงไปจนถึง Root Cause หรือ “รากของปัญหา” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประวัติและต้นกำเนิด
Fishbone Diagram ได้รับการพัฒนาขึ้นโดย ดร.คาโอรุ อิชิกาวะ (Kaoru Ishikawa) นักวิชาการชาวญี่ปุ่น ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมคุณภาพ ซึ่งเริ่มนำแนวคิดนี้มาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตที่อู่ต่อเรือคาวาซากิ ในช่วงปี พ.ศ. 2503–2511 แม้ว่าจะมีรากฐานของแนวคิดมาตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2463 แต่ดร.อิชิกาวะเป็นผู้ที่ทำให้แนวทางนี้ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายทั่วโลก จนกลายเป็นหนึ่งใน 7 เครื่องมือคุณภาพ (7 QC Tools) ที่ใช้ในการบริหารจัดการองค์กรยุคใหม่
ขั้นตอนการใช้งาน Fishbone Diagram
1. กำหนดปัญหาหลัก (Effect)
เริ่มจากการระบุปัญหาที่ต้องการวิเคราะห์อย่างชัดเจน เช่น “ยอดขายลดลง” หรือ “ลูกค้าไม่พอใจบริการ” แล้วเขียนไว้ที่ “หัวปลา” (หัวแผนภูมิ)
2. วาดโครงสร้างผัง (Skeleton Structure)
วาดเส้นตรงจากหัวปลาไปหางปลา เส้นนี้คือแนวหลักที่จะแสดงกลุ่มของสาเหตุต่าง ๆ ที่จะระบุเข้ามา
3. กำหนดหมวดหมู่ของสาเหตุ (Cause Categories)
จัดกลุ่มสาเหตุออกเป็นหมวดหมู่ตามบริบทของธุรกิจ เช่น:
สำหรับอุตสาหกรรม (6M Model)
- Manpower (คน): ทักษะ ความรู้ พฤติกรรมของบุคลากร
- Machine (เครื่องจักร): อุปกรณ์ เครื่องมือ หรือเทคโนโลยี
- Method (วิธีการ): ขั้นตอน กระบวนการทำงาน
- Material (วัสดุ): วัตถุดิบหรือข้อมูลที่ใช้
- Measurement (การวัดผล): วิธีการตรวจสอบคุณภาพหรือประเมินผล
- Mother Nature / Environment (สภาพแวดล้อม): ปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้โดยตรง เช่น อากาศ กฎหมาย ระบบเน็ตเวิร์ก
สำหรับธุรกิจบริการ (4S Model)
- Surroundings: สภาพแวดล้อมของสถานที่
- Suppliers: ผู้ให้บริการหรือซัพพลายเออร์
- Systems: ระบบหรือเทคโนโลยีที่ใช้
- Skills: ความสามารถและความเชี่ยวชาญของพนักงาน
4. ระบุสาเหตุย่อย (Sub-causes)
แยกรายละเอียดเพิ่มเติมในแต่ละหมวดหมู่ เช่น ในกลุ่ม “คน” อาจพบว่า “พนักงานไม่มีการอบรมก่อนเริ่มงาน” เป็นต้น โดยสามารถใช้เทคนิค 5 Whys เพื่อถามหาสาเหตุให้ลึกลงไปเรื่อย ๆ จนพบต้นเหตุที่แท้จริง
5. วิเคราะห์และจัดลำดับความสำคัญ
ประเมินว่าสาเหตุใดมีผลกระทบมากที่สุดต่อปัญหาหลัก และพิจารณาความเป็นไปได้ในการแก้ไข โดยจัดลำดับก่อน-หลัง เพื่อวางแผนดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
6. พัฒนาแนวทางแก้ไข
นำผลลัพธ์จากการวิเคราะห์มาพัฒนาเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด และควรมีการติดตามผลลัพธ์หลังการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาเกิดซ้ำ
ตัวอย่างกรณีศึกษา: Dashboard ยอดขายไม่ตรง
ปัญหา: ยอดขายใน Dashboard รายเดือนไม่ตรงกับรายงานจากแผนกบัญชี
วิเคราะห์โดยใช้ 6M:
1. Manpower:
- Data Analyst เข้าใจ requirement ผิด
- ไม่มีการตรวจสอบภายในก่อนปล่อย dashboard
2. Machine:
- Power BI ใช้ filter เก่าค้างอยู่
- ระบบ POS บางสาขาเชื่อมต่อไม่เสถียร
3. Method:
- ขาดขั้นตอน QA/UAT
- ไม่ได้รวมข้อมูลจากทุกแหล่งใน ETL
4. Material:
- ใช้ table ข้อมูล staging แทน production
- ฟิลด์วันที่ผิด format ทำให้ข้อมูลขาดหาย
5. Measurement:
- ไม่ได้ตั้ง validation rule ตรวจสอบยอดรวม
- ไม่มี KPI วัดความแม่นยำของข้อมูล
6. Environment:
- ระบบฐานข้อมูล sync ช้า
- เครือข่าย POS บางสาขามีปัญหา
แนวทางการแก้ไข:
ตั้ง SOP การตรวจสอบข้อมูล, ทำ QA/UAT ทุกครั้งก่อนปล่อยใช้งาน, เพิ่มการประชุม cross-team เพื่อทำความเข้าใจ requirement ให้ตรงกัน
ข้อดีของการใช้ Fishbone Diagram
- ช่วยระดมความคิดเห็นจากหลายฝ่ายอย่างเป็นระบบ
- มองเห็นความเชื่อมโยงระหว่างสาเหตุกับปัญหาได้อย่างชัดเจน
- เหมาะสำหรับทั้งการแก้ไขปัญหาเชิงปฏิบัติและการวางแผนกลยุทธ์
- ใช้ได้กับทุกแผนก ไม่จำกัดเฉพาะสายการผลิต
สรุป
Fishbone Diagram เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการ วิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหาเชิงระบบ ช่วยให้มองเห็นภาพรวมและลงลึกในรายละเอียดได้ในเวลาเดียวกัน เหมาะสำหรับการนำไปใช้ทั้งในภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการ หรือแม้แต่การจัดการองค์กรทั่วไป
การนำผังก้างปลามาใช้ร่วมกับการทำงานแบบข้ามแผนก และการนำข้อมูลที่ได้ไปพัฒนากระบวนการอย่างต่อเนื่อง จะช่วยลดโอกาสเกิดปัญหาซ้ำเดิม และสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงให้แก่องค์กร
📚 อ่านบทความอื่นเพิ่มเติมได้ที่:
📞 ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม:
Facebook: https://www.facebook.com/RandDBI/
Line Official: @rdbi
โทรศัพท์: 02-681-9700
อีเมล: sales@rdbi.co.th