7 Power สร้างอำนาจเหนือคู่แข่ง

September 23, 2025

by Napat Rammanu

7Power-01

7 Powers: The Foundations of Business Strategy โดย Hamilton Helmer ชี้ให้เห็นว่า ธุรกิจที่แข็งแกร่งและเติบโตอย่างยั่งยืน ไม่ได้อาศัยเพียงความขยันหรือการบริหารที่ดี แต่ต้องมี “พลัง” ที่สร้างความได้เปรียบถาวรเหนือคู่แข่ง ทั้ง 7 ด้านต่อไปนี้คือแกนกลางของกลยุทธ์ที่แท้จริง

1. Scale Economies – พลังจากขนาด

เมื่อธุรกิจขยายตัว ต้นทุนเฉลี่ยต่อหน่วยจะลดลง ทำให้สามารถแข่งขันด้านราคาได้ดีขึ้น และมีกำไรสูงกว่าคู่แข่งที่เล็กกว่า การมีพลังจากขนาดจึงเป็นเกราะป้องกันที่สำคัญ เพราะยิ่งธุรกิจเติบโต ยิ่งยากที่คู่แข่งใหม่จะเข้ามาแข่งขันในต้นทุนระดับเดียวกันได้

ตัวอย่าง: ซีพี ออลล์ (7-Eleven)

ด้วยจำนวนสาขากว่า 14,000 แห่งทั่วประเทศ ซีพี ออลล์ สามารถต่อรองราคาสินค้ากับซัพพลายเออร์ได้ในต้นทุนที่ต่ำกว่าคู่แข่งรายเล็ก อีกทั้งยังมีระบบโลจิสติกส์ที่กระจายสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต้นทุนเฉลี่ยต่อหน่วยจึงถูกลงเรื่อย ๆ ทำให้คู่แข่งรายใหม่แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าแข่งขันในระดับเดียวกันได้

2. Network Effect – พลังจากเครือข่าย

คุณค่าของธุรกิจบางประเภทจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อมีจำนวนผู้ใช้มากขึ้น เมื่อผู้คนจำนวนมากอยู่ในเครือข่ายเดียวกัน ความน่าสนใจและการมีส่วนร่วมก็จะยิ่งสูง ส่งผลให้ผู้ใช้ใหม่ถูกดึงดูดเข้ามาโดยธรรมชาติ สิ่งนี้ทำให้ธุรกิจที่สร้างเครือข่ายได้หนาแน่น จะมีอำนาจเหนือตลาดในระยะยาว

ตัวอย่าง: LINE ประเทศไทย

LINE เริ่มต้นจากการเป็นแอปแชท แต่เมื่อผู้ใช้งานจำนวนมหาศาลอยู่บนแพลตฟอร์มเดียวกัน มูลค่าของเครือข่ายก็ยิ่งทวีคูณ ทั้งบริการทางการเงิน (LINE BK), คอนเทนต์ (LINE TV), ไปจนถึงการค้า (LINE MAN) ผู้ใช้ใหม่จึงถูกดึงเข้ามาโดยธรรมชาติ เพราะ “ทุกคนที่รู้จักก็อยู่ในนี้”

3. Counter-Positioning – พลังจากการสวนกระแส

คือการเลือกใช้โมเดลธุรกิจที่แตกต่างไปจากวิถีเดิมในตลาด โดยคู่แข่งที่มีอยู่แล้วมักไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ทันที เพราะการทำตามอาจกระทบกับธุรกิจหลักที่พวกเขาสร้างมา การสวนกระแสเช่นนี้จึงเปิดโอกาสให้ธุรกิจใหม่สร้างความได้เปรียบในตลาด โดยที่คู่แข่งเดิมยังติดกับดักความสำเร็จเก่า ๆ ของตนเอง

ตัวอย่าง: ศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ

ในอดีตธุรกิจสินเชื่อถูกมองว่าเข้าถึงยากและมีขั้นตอนซับซ้อน แต่ศรีสวัสดิ์เลือกเปิดโมเดล “เงินกู้บนถนนใหญ่” ที่เข้าถึงง่ายและเร็วกว่า คู่แข่งสถาบันการเงินดั้งเดิมไม่สามารถปรับตามได้ทันทีเพราะติดกรอบระเบียบและต้นทุนการบริหารแบบเดิม ส่งผลให้ศรีสวัสดิ์สร้างพื้นที่ตลาดของตัวเองขึ้นมาได้สำเร็จ

4. Switching Costs – พลังจากต้นทุนการเปลี่ยนใจ

หากการเปลี่ยนไปหาคู่แข่งทำให้ลูกค้าเสียค่าใช้จ่าย เสียเวลา เสียข้อมูล หรือเสียโอกาสบางอย่าง ก็จะทำให้พวกเขาเลือกอยู่กับผู้ให้บริการเดิมต่อไป การสร้าง Switching Costs ที่สูงช่วยให้ธุรกิจรักษาฐานลูกค้าได้มั่นคง แม้จะมีคู่แข่งที่เสนอราคาถูกกว่าหรือคุณสมบัติเพิ่มเติมก็ตาม

ตัวอย่าง: SCB Easy App

เมื่อผู้ใช้เริ่มโอนเงิน จ่ายบิล และเชื่อมบัญชีกับบริการดิจิทัลของ SCB มากขึ้น การย้ายไปใช้ธนาคารอื่นจะหมายถึงการเสียเวลาในการย้ายข้อมูล ตั้งค่าบัญชีใหม่ และเรียนรู้ระบบใหม่ จึงทำให้ลูกค้ามีแนวโน้มอยู่กับธนาคารเดิมต่อ แม้ว่าคู่แข่งบางรายอาจเสนอโปรโมชั่นดีกว่าก็ตาม

5. Brand Power – พลังจากแบรนด์

แบรนด์ที่แข็งแรงไม่ใช่เพียงชื่อหรือโลโก้ แต่คือการส่งมอบคุณภาพและความน่าเชื่อถืออย่างต่อเนื่อง จนลูกค้าพร้อมจะจ่ายในราคาที่สูงกว่า เพราะมั่นใจในสิ่งที่ได้รับ พลังจากแบรนด์ยังช่วยให้ธุรกิจทนต่อแรงกดดันด้านราคา และสร้างความแตกต่างในตลาดที่เต็มไปด้วยคู่แข่ง

ตัวอย่าง: ไทยเบฟ (ช้าง)

แบรนด์ “ช้าง” ไม่ได้ขายแค่เครื่องดื่ม แต่ขายภาพลักษณ์ของความสนุกสนาน การเข้าสังคม และการเฉลิมฉลอง แบรนด์ที่แข็งแรงนี้ทำให้ผู้บริโภคจำนวนมากเลือกดื่มแม้ว่าจะมีทางเลือกที่ถูกกว่า เพราะมั่นใจในคุณภาพและอารมณ์ร่วมที่แบรนด์ส่งมอบ

6. Cornered Resource – พลังจากทรัพยากรเฉพาะ

ธุรกิจที่สามารถควบคุมหรือครอบครองทรัพยากรที่หายากและมีคุณค่า เช่น สิทธิ์เฉพาะ เทคโนโลยีที่เข้าถึงได้ยาก หรือข้อมูลที่ไม่สามารถหาได้จากที่อื่น จะมีข้อได้เปรียบอย่างมหาศาล เพราะคู่แข่งไม่สามารถเข้าถึงทรัพยากรเหล่านี้ได้ ทำให้กลายเป็นเกราะป้องกันที่ยั่งยืน

ตัวอย่าง: ปตท.

ปตท. มีสิทธิ์เข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของประเทศ เช่น ท่อส่งก๊าซและคลังเก็บก๊าซ ซึ่งเป็นทรัพยากรที่ไม่สามารถทำซ้ำได้ง่ายในระยะสั้น คู่แข่งรายใหม่แทบไม่สามารถเข้ามาแข่งขันได้เพราะติดข้อจำกัดด้านกฎหมายและเงินลงทุนมหาศาล

7. Process Power – พลังจากกระบวนการ

กระบวนการที่ธุรกิจสร้างขึ้นและปรับปรุงอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็น “ความสามารถภายใน” ที่คู่แข่งเลียนแบบได้ยาก เช่น วิธีการทำงาน ระบบการจัดการ หรือความรู้ที่สะสมมานาน สิ่งเหล่านี้ทำให้ธุรกิจดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า และสร้างผลลัพธ์ที่คู่แข่งไม่สามารถตามทันได้ง่าย

ตัวอย่าง: บีจีซี (BG Container Glass)

ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์แก้วรายใหญ่ของไทยที่มีประสบการณ์ยาวนานในกระบวนการผลิตแก้วคุณภาพสูง การสะสมองค์ความรู้ เทคนิคการผลิต และระบบจัดการที่แม่นยำ ทำให้ต้นทุนต่อหน่วยต่ำลง และคู่แข่งรายใหม่ไม่สามารถลอกเลียนความชำนาญได้ในเวลาอันสั้น

สรุป

“7 Power” คือกรอบคิดที่ช่วยให้ผู้บริหารมองเห็นว่า กลยุทธ์ที่แท้จริงไม่ใช่แค่การแข่งให้เร็วหรือถูกกว่า แต่คือการสร้างพลังเชิงโครงสร้างที่ยั่งยืน หากองค์กรสามารถสร้างและรักษาพลังเหล่านี้ได้ จะไม่เพียงแค่เอาชนะคู่แข่งในวันนี้ แต่จะสามารถปกป้องความเป็นผู้นำและสร้างการเติบโตระยะยาวได้อย่างมั่นคง

สามารถเข้าไปดูบทความอื่นๆ ได้ที่: https://rdbi.co.th/blog/

ปรึกษาหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

เพจ: http://bit.ly/rdbipage
Facebook: https://www.facebook.com/RandDBI/
Line OA: @rdbi
Tel: 02-681-9700
อีเมล์: sales@rdbi.co.th🌟

Share this post:
Facebook
Twitter
LinkedIn
WhatsApp

Discover more articles