5 Tips Power BI ที่คุณต้องรู้

May 8, 2025

by Napat Rammanu

TipPowerBI-01

Power BI เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้การวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างรายงานมีประสิทธิภาพสูงขึ้น แต่การใช้งานให้ “เร็วกว่า ดีกว่า” นั้น ต้องอาศัยเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่หลายคนอาจมองข้าม

บทความนี้จะมาแนะนำ Tips Power BI ที่คุณต้องรู้ เพื่อนำไปใช้ เพื่อยกระดับการทำงานให้เหมือนมืออาชีพตัวจริง

1. ตั้งชื่อ Field และ Table ให้ชัดเจน

การตั้งชื่อ Field (คอลัมน์) และ Table (ตาราง) เป็นเรื่องที่หลายคนมักมองข้าม โดยปล่อยให้ใช้ชื่อเริ่มต้นเช่น Column1, Table1 อยู่ ซึ่งทำให้:

  • ทำงานต่อยาก เพราะต้องคอยเปิดดูข้อมูลจริง
  • สร้างความสับสนเมื่อต้องเขียนสูตร DAX
  • ส่งต่องานให้คนอื่นยาก เพราะไม่เข้าใจเนื้อหาข้อมูล

การตั้งชื่ออย่างชัดเจน เช่น SalesAmount, OrderDate, CustomerName ช่วยให้เข้าใจข้อมูลได้ทันที และยังทำให้ Report มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น

เคล็ดลับเพิ่มเติม: ใช้รูปแบบการตั้งชื่อให้สม่ำเสมอ เช่น ใช้ underscore (_) หรือ camelCase ตลอดทั้งโปรเจกต์ เช่น employeeStartDate , orderDetails

2. ใช้ Reference Query แทน Duplicate Query

ในขั้นตอนการเตรียมข้อมูลด้วย Power Query หลายคนมักใช้การ Duplicate Query เพื่อสร้างสำเนาข้อมูล แต่การทำแบบนี้จะกินหน่วยความจำเพิ่มขึ้นอย่างไม่จำเป็น เพราะระบบต้องคัดลอกข้อมูลทั้งหมดอีกรอบ

ทางที่ดีกว่าคือ การใช้ Reference Query ซึ่งจะสร้าง Query ใหม่ที่อ้างอิงข้อมูลจากต้นฉบับโดยตรง ทำให้:

  • ประหยัดหน่วยความจำ
  • ลดภาระการ Refresh ข้อมูล
  • อัปเดตง่าย เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลต้นทาง

วิธีการใช้งาน: คลิกขวาที่ Query ที่ต้องการ → เลือก “Reference”

3. ตั้ง Data Type ให้เรียบร้อยใน Power Query

การกำหนดประเภทข้อมูล (Data Type) อย่างถูกต้องใน Power Query เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญที่หลายคนมองข้าม การปล่อยให้ระบบเดาเองอาจทำให้เกิดปัญหา เช่น:

  • เขียนสูตรแล้วเกิด Error
  • การเชื่อมต่อข้อมูลผิดพลาด
  • การแสดงผลข้อมูลผิดประเภท เช่น ตัวเลขกลายเป็นข้อความ

ควรกำหนดประเภทข้อมูลให้เหมาะสม เช่น:

  • ตัวเลข ➔ Decimal Number
  • วันที่ ➔ Date
  • รหัสหรือหมวดหมู่ ➔ Text

นอกจากลดปัญหาข้างต้นแล้ว ยังช่วยให้โมเดลข้อมูลมีขนาดเล็กลง และทำงานได้เร็วขึ้นอีกด้วย

4. วางโครงสร้าง Data Model แบบ Star Schema

การออกแบบ Data Model เป็นหัวใจสำคัญในการทำ Power BI ให้เร็วและเสถียร โดยรูปแบบที่แนะนำคือ Star Schema ซึ่งหมายถึง:

  • มี Fact Table กลาง (ข้อมูลหลัก เช่น Sales, Transaction)
  • ล้อมรอบด้วย Dimension Table (ข้อมูลอ้างอิง เช่น Customer, Product, Date)

ข้อดีของการใช้ Star Schema คือ:

  • เร่งความเร็วในการประมวลผลข้อมูล
  • ลดความซับซ้อนของโมเดล
  • ช่วยให้เขียน DAX Formula ได้ง่ายและตรงประเด็น
  • ลดโอกาสเกิดปัญหา Relationship Loop หรือ Ambiguity

การจัด Data Model ให้สะอาดตั้งแต่ต้น จะช่วยประหยัดเวลาทำงานในระยะยาวมหาศาล

5. ใช้ Measure แทนการสร้าง Calculated Column ถ้าเป็นไปได้

Power BI เปิดโอกาสให้สร้างข้อมูลคำนวณใหม่ได้ 2 แบบ คือ:

  • Calculated Column: คอลัมน์ใหม่ที่คำนวณและเก็บไว้ใน Table
  • Measure: สูตรคำนวณแบบ Dynamic ไม่มีการเพิ่มคอลัมน์จริง

หากเลือกได้ ควรใช้ Measure มากกว่า เพราะ:

  • ไม่เพิ่มขนาดไฟล์ .pbix
  • ประมวลผลเฉพาะเวลาที่ต้องใช้ ช่วยให้การทำงานรวดเร็วขึ้น
  • ลดภาระในการ Refresh ข้อมูล

การสร้าง Calculated Column ควรทำเฉพาะในกรณีที่จำเป็นจริงๆ เช่น ต้องใช้ข้อมูลนั้นในการสร้าง Relationship หรือเป็นตัวกรองใน Report เท่านั้น

สามารถเข้าไปดูบทความอื่นๆ ได้ที่: https://rdbi.co.th/blog/

ปรึกษาหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

เพจ: http://bit.ly/rdbipage
Facebook: https://www.facebook.com/RandDBI/
Line OA: @rdbi
Tel: 02-681-9700
อีเมล์: sales@rdbi.co.th🌟

Share this post:
Facebook
Twitter
LinkedIn
WhatsApp

Discover more articles