งานเยอะจริง หรือเราแค่คิดไปเอง?

September 18, 2025

by Napat Rammanu

Work-01

ทำไมเรารู้สึกว่างานเยอะตลอดเวลา?

คุณเคยไหม…

  • ตื่นเช้ามาก็รู้สึกว่า “วันนี้คงไม่ทันอีกแน่”
  • ต้องขอโทษคนอื่นบ่อยๆ ว่า “ขอโทษนะ ช่วงนี้ยุ่งมาก”
  • ทำงานทั้งวัน แต่พอมองย้อนกลับไป…กลับนึกไม่ออกว่าสำเร็จอะไรไปแล้วบ้าง

ถ้าใช่ — คุณอาจไม่ได้ ยุ่งจริง แต่อาจติดอยู่ใน “กับดักความเร่งรีบจอมปลอม” หรือที่ Harvard Business Review เรียกว่า False Urgency

False Urgency คืออะไร?

คือ อาการที่รู้สึกว่างานทุกอย่าง “ด่วน” ทั้งที่จริงๆ ไม่ได้ด่วน

มันไม่ได้มาจากปริมาณงานที่ล้น แต่มาจากบรรยากาศที่:

  • เรา คิดเองว่าต้องรีบ
  • หัวหน้าพูดแค่นิดเดียว เราก็ ตีความว่าต้องส่งเดี๋ยวนี้
  • กลัวว่าจะถูกมองว่า “ไม่ขยัน” ถ้าไม่ตอบทันที

สุดท้ายเราจึง ตอบสนองต่อทุกอย่างทันที แต่ไม่ได้ “จัดการ” อะไรจริงๆ

แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่างานเยอะจริง

ถามตัวเอง 3 ข้อนี้:
  1. งานที่ทำวันนี้มี “ผลกระทบสำคัญ” ต่อเป้าหมายระยะยาวไหม?
  2. ฉันใช้เวลาส่วนใหญ่กับงานที่ ด่วน หรือ สำคัญ?
  3. ถ้ามีเวลาเพิ่มอีก 3 ชั่วโมง ฉันจะทำอะไร?

ถ้าคำตอบคือ “งานส่วนใหญ่ไม่ได้สำคัญขนาดนั้น”

คุณอาจแค่กำลังอยู่ใน “โหมดยุ่งปลอม” ก็เป็นได้

วิธีจัดการความรู้สึก “ยุ่งเกินจริง”

1. จัดลำดับสิ่งที่ควร “ทำ” กับสิ่งที่ควร “เลิกทำ”

งานบางอย่างไม่ได้ต้องทำ — แค่มันเคยทำมาเสมอ

เช่น:

  • รายงานบางอย่างไม่มีคนอ่าน → ตัดออกได้
  • การเช็คอีเมลทุก 10 นาที → เปลี่ยนเป็นวันละ 3 รอบ
2. กล้าตั้งคำถามกับคำว่า “ด่วน”

ก่อนกระโจนใส่งาน ให้ถามกลับว่า:

  • “ด่วนเมื่อไหร่?”
  • “สำคัญกับใคร?”
  • “ผลลัพธ์ที่คาดหวังคืออะไร?”

บางครั้ง คนอื่นเองก็ไม่ได้คาดหวังให้คุณตอบทันทีเลย — เรา คิดไปเอง

3. ฝึก “ชะลอแบบมีเป้าหมาย” (Strategic Pause)

บางครั้ง งานที่ดีที่สุดเกิดจากการ เว้นระยะ เพื่อคิดให้ลึกขึ้น

แทนที่จะตอบกลับทันที ลองตั้งเวลาทบทวน:

  • 15 นาทีเพื่อคิดก่อนตอบ
  • ครึ่งวันเพื่อร่างแนวทาง
  • 1 วันเพื่อเรียบเรียงให้ดีขึ้น

ความเร็วไม่ใช่ทุกอย่าง — คุณภาพต่างหากที่อยู่ได้นานกว่า

สามารถเข้าไปดูบทความอื่นๆ ได้ที่: https://rdbi.co.th/blog/

ปรึกษาหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

เพจ: http://bit.ly/rdbipage
Facebook: https://www.facebook.com/RandDBI/
Line OA: @rdbi
Tel: 02-681-9700
อีเมล์: sales@rdbi.co.th🌟

Share this post:
Facebook
Twitter
LinkedIn
WhatsApp

Discover more articles