
ทำไมเรารู้สึกว่างานเยอะตลอดเวลา?
คุณเคยไหม…
- ตื่นเช้ามาก็รู้สึกว่า “วันนี้คงไม่ทันอีกแน่”
- ต้องขอโทษคนอื่นบ่อยๆ ว่า “ขอโทษนะ ช่วงนี้ยุ่งมาก”
- ทำงานทั้งวัน แต่พอมองย้อนกลับไป…กลับนึกไม่ออกว่าสำเร็จอะไรไปแล้วบ้าง
ถ้าใช่ — คุณอาจไม่ได้ ยุ่งจริง แต่อาจติดอยู่ใน “กับดักความเร่งรีบจอมปลอม” หรือที่ Harvard Business Review เรียกว่า False Urgency
False Urgency คืออะไร?
คือ อาการที่รู้สึกว่างานทุกอย่าง “ด่วน” ทั้งที่จริงๆ ไม่ได้ด่วน
มันไม่ได้มาจากปริมาณงานที่ล้น แต่มาจากบรรยากาศที่:
- เรา คิดเองว่าต้องรีบ
- หัวหน้าพูดแค่นิดเดียว เราก็ ตีความว่าต้องส่งเดี๋ยวนี้
- กลัวว่าจะถูกมองว่า “ไม่ขยัน” ถ้าไม่ตอบทันที
สุดท้ายเราจึง ตอบสนองต่อทุกอย่างทันที แต่ไม่ได้ “จัดการ” อะไรจริงๆ
แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่างานเยอะจริง
ถามตัวเอง 3 ข้อนี้:
- งานที่ทำวันนี้มี “ผลกระทบสำคัญ” ต่อเป้าหมายระยะยาวไหม?
- ฉันใช้เวลาส่วนใหญ่กับงานที่ ด่วน หรือ สำคัญ?
- ถ้ามีเวลาเพิ่มอีก 3 ชั่วโมง ฉันจะทำอะไร?
ถ้าคำตอบคือ “งานส่วนใหญ่ไม่ได้สำคัญขนาดนั้น”
คุณอาจแค่กำลังอยู่ใน “โหมดยุ่งปลอม” ก็เป็นได้
วิธีจัดการความรู้สึก “ยุ่งเกินจริง”
1. จัดลำดับสิ่งที่ควร “ทำ” กับสิ่งที่ควร “เลิกทำ”
งานบางอย่างไม่ได้ต้องทำ — แค่มันเคยทำมาเสมอ
เช่น:
- รายงานบางอย่างไม่มีคนอ่าน → ตัดออกได้
- การเช็คอีเมลทุก 10 นาที → เปลี่ยนเป็นวันละ 3 รอบ
2. กล้าตั้งคำถามกับคำว่า “ด่วน”
ก่อนกระโจนใส่งาน ให้ถามกลับว่า:
- “ด่วนเมื่อไหร่?”
- “สำคัญกับใคร?”
- “ผลลัพธ์ที่คาดหวังคืออะไร?”
บางครั้ง คนอื่นเองก็ไม่ได้คาดหวังให้คุณตอบทันทีเลย — เรา คิดไปเอง
3. ฝึก “ชะลอแบบมีเป้าหมาย” (Strategic Pause)
บางครั้ง งานที่ดีที่สุดเกิดจากการ เว้นระยะ เพื่อคิดให้ลึกขึ้น
แทนที่จะตอบกลับทันที ลองตั้งเวลาทบทวน:
- 15 นาทีเพื่อคิดก่อนตอบ
- ครึ่งวันเพื่อร่างแนวทาง
- 1 วันเพื่อเรียบเรียงให้ดีขึ้น
ความเร็วไม่ใช่ทุกอย่าง — คุณภาพต่างหากที่อยู่ได้นานกว่า
สามารถเข้าไปดูบทความอื่นๆ ได้ที่: https://rdbi.co.th/blog/
ปรึกษาหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
เพจ: http://bit.ly/rdbipage
Facebook: https://www.facebook.com/RandDBI/
Line OA: @rdbi
Tel: 02-681-9700
อีเมล์: sales@rdbi.co.th🌟








