ในยุคที่งานสามารถติดตามเราได้ทุกที่ทุกเวลา ความเครียดจากการทำงานกลายเป็นปัญหาหลักที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของคนทำงานทั่วโลก ข้อมูลจาก OECD ระบุว่า 1 ใน 3 ของพนักงานประสบภาวะความเครียดจากงาน และจากผลสำรวจของ BCG ปี 2024 พบว่า 48% ของแรงงานทั่วโลกกำลังเผชิญกับ burnoutกลุ่มคนรุ่นใหม่อย่าง Gen Z ยิ่งได้รับผลกระทบมาก เนื่องจากพวกเขามักถูกคาดหวังให้แสดงศักยภาพในสภาพแวดล้อมที่ “เชื่อมต่อเสมอ” แต่กลับขาดความมั่นคงในอาชีพ รวมถึงขาดประสบการณ์ในการจัดการความเครียด

และต้องพบเจออีกปัญหาหนึ่งที่ส่งผลต่อสุขภาพจิตของคนทำงานยุคใหม่ ก็คือการใช้งานแอปสื่อสารต่าง ๆ เช่น Microsoft Teams, Google Chat หรือแม้แต่ Line ที่ใช้ทั้งในการทำงานและส่วนตัว ทำให้เรารู้สึกว่าต้องตอบกลับทันทีแม้ในช่วงนอกเวลางานภาวะนี้นำไปสู่ความรู้สึกเหนื่อยล้าเรื้อรัง เพราะสมองไม่ได้รับเวลาพักที่แท้จริง ยิ่งคนที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นทำงานยิ่งกลัวเสียโอกาสจึงมักเลือกที่จะ “พร้อมเสมอ” ทั้งที่ควรได้พักผ่อนโดยไม่ถูกรบกวนจากงานในช่วงวันหยุด

การพักผ่อนจึงไม่เป็นแค่เพียงสิ่งที่เราเลือกที่จะทำแต่เป็นสิ่งที่ต้องทำเพื่อที่จะได้มีประสิทธิภาพในการใช้ชีวิตประจำวัน การทำงาน เสมือนกับนักกีฬาที่มีช่วงเก็บตัวพักผ่อนเพื่อที่จะได้กลับมาแข่งขันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยบทความนี้จะมาเสนอ 5 วิธีพักเพื่อกลับมาโฟกัสได้ดียิ่งขึ้น

5 วิธีพักเพื่อกลับมาโฟกัสได้ดียิ่งขึ้น

1. สูดลมหายใจลึกและการยืดกล้ามเนื้อเบา ๆ

การหายใจช้า ๆ ลึก ๆ ช่วยลดความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจ ส่งผลให้จิตใจสงบและมีสมาธิ ควบคู่กับการยืดเหยียดร่างกายที่ช่วยกระตุ้นระบบประสาทพาราซิมพาเทติก เพิ่มการไหลเวียนเลือด และลดความตึงเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วงเวลาทำงานร่างกายของเราได้รับความเครียดอย่างหนักไม่ว่าจะเป็นประชุมในช่วงเช้า งานที่เข้ามาโดยไม่มีพัก พอรู้สึกตัวถึงช่วงเวลาก็ถึงเวลาพักเที่ยงแล้ว แต่สมองยังทำงานอยู่และยังไม่สามารถคลายความเครียดที่เกิดขึ้นได้

เราควรหาเวลาสัก 5 นาทีในแต่ละวัน ตั้งพื้นที่ส่วนตัวเล็ก ๆ ตรงโต๊ะทำงานหรือมุมที่บรรยากาศร่มรื่นพอนั่งพักได้เพื่อสำหรับทำสมาธิหรือฝึกการหายใจโดยไม่มีสิ่งรบกวนจากหน้าจอใด ๆ

2. แช่น้ำอุ่นผ่อนคลาย

ไม่ว่าจะเป็นการแช่อ่างน้ำอุ่นหรือการอาบน้ำอุ่น ก็เป็นอีกวิธีคลายเครียดที่ทรงพลัง ใช้เวลาสั้น ๆ 10–15 นาที โดยไม่ต้องถือโทรศัพท์หรือเสพข้อมูลใด ๆ ให้เป็นเวลาของคุณเองอีกทั้งน้ำอุ่นช่วยคลายกล้ามเนื้อ บรรเทาความเหนื่อยล้า ที่เกิดจากการนั่งบนเก้าอี้นานๆ จากการทำงานเอกสารและใช้งานคอมพิวเตอร์ และช่วยให้คุณรู้สึกสงบลงอย่างแท้จริง

3. ตั้งตารางการนอนให้สม่ำเสมอ

การนอนถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่มีอะไรมาทดแทนได้ในเรื่องของการพักผ่อน หากนอนไม่ตรงเวลาบ่อยๆ อดหลับอดนอน ย่อมมีผลเสียที่จะตามมาไม่ว่าจะเป็น ภาวะความเครียดสะสม สมาธิสั้น ความคิดช้า และเป็นสาเหตุอีกอย่างหนึ่งของโรคสมองเสื่อม

การนอนให้เพียงพอและตรงเวลาทุกคืน จะช่วยให้ระบบนาฬิกาชีวิตทำงานเป็นปกติ ส่งผลให้ร่างกายสดชื่นและมีพลังในการเริ่มต้นวันใหม่ ลองเสริมกิจวัตรก่อนนอนด้วยการดื่มชาสมุนไพรเบา ๆ อ่านหนังสือ หรือฟังเพลงผ่อนคลายแทนการจ้องหน้าจอ

4. ตั้งค่า Do Not Disturb

หลังเลิกงาน ควรตั้งโหมด “ไม่รับการแจ้งเตือน” บนแอปสื่อสารทั้งหมด เพื่อสร้างขอบเขตที่ชัดเจนระหว่างงานกับเวลาส่วนตัว เป็นการส่งสัญญาณให้ทั้งตัวคุณและเพื่อนร่วมงานเข้าใจว่า “ถึงเวลาพักแล้ว”การแยกแอปใช้งาน เช่น ใช้แอปหนึ่งสำหรับงาน และอีกแอปสำหรับส่วนตัว ก็ช่วยลดความสับสนและความเครียดจากการเปลี่ยนบริบทได้เช่นกัน

แต่ถ้าหากไม่สามารถเลี่ยงการติดต่อสื่อสารนอกเวลางานได้ก็ควรเข้าไปปรึกษาหัวหน้างานหรือเพื่อนร่วมงานเพื่อที่จะตั้งขอบเขตระยะเวลาการทำงานว่าถึงช่วงเวลาไหนที่สามารถติดต่อได้เพื่อที่จะได้มีเวลาพักผ่อนอย่างเต็มที่

5. ใช้โทรศัพท์ 2 เครื่อง

หากคุณเป็นผู้บริหารที่ต้องมีการติดต่อสื่อสารกับทั้ง ลูกค้า พนักงาน ตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็นเวลาส่วนตัว หรือเวลาทำงาน การที่เลือกใช้งานโทรศัพท์ 2 เครื่องก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยระหว่าง “งาน” และ “ชีวิตส่วนตัว” ช่วยให้คุณควบคุมการใช้เวลาได้ดีขึ้น เมื่อถึงเวลาพัก ก็แค่ปิดเครื่องที่ใช้ทำงานและโฟกัสกับตัวเอง

สรุป

ความเครียดจากงานอาจเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เราสามารถควบคุมและจัดการกับมันได้ การตั้งขอบเขตที่ชัดเจนระหว่างงานกับชีวิต การใส่ใจสุขภาพจิต และใช้เทคนิคผ่อนคลายเล็ก ๆ เหล่านี้จะช่วยฟื้นฟูสมดุลในชีวิตเพียงแค่คุณยอมรับว่า “การพักผ่อนคือส่วนหนึ่งของความสำเร็จ” คุณก็สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องแลกกับสุขภาพจิตของตัวเอง

สามารถเข้าไปดูบทความอื่นๆ ได้ที่: https://rdbi.co.th/blog/

ปรึกษาหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

เพจ: http://bit.ly/rdbipage
Facebook: https://www.facebook.com/RandDBI/
Line OA: @rdbi
Tel: 02-681-9700
อีเมล์: sales@rdbi.co.th🌟