Perceptual Mapping แผนที่ในใจลูกค้าที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม

May 28, 2025

by Napat Rammanu

PM01-15

การสร้างความแตกต่างเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญที่สุดในธุรกิจ ณ ตอนนี้ ที่มีการแข่งขันสูงและมีตลาดแบบทะเลแดง (Red Ocean) เพราะเป็นส่วนที่ทำให้ผู้บริโภคสามารถจดจำสินค้าหรือแบรนด์ได้ และเป็นตัวสำคัญที่แสดงถึงจุดยืนของแบรนด์ที่เป็นเอกลักษณ์ Perceptual Mapping จะเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณ เห็นถึง จุดยืนของธุรกิจเราที่แตกต่างจากแบรนด์อื่น เพื่อนำไปปรับใช้ในการทำแบรนด์ดิ้ง และการสร้างความแตกต่างของสินค้าของคุณ

Perceptual Mapping Image

Perceptual Mapping คืออะไร

คือ เครื่องมือทางการตลาดที่ใช้วิเคราะห์ว่า ลูกค้ารับรู้ (perceive) แบรนด์ สินค้า หรือบริการต่างๆ อย่างไรเมื่อเปรียบเทียบกันในตลาด โดยมักจะวางลงใน “แผนที่ 2 แกน (2D Map)” เพื่อให้เห็นภาพความแตกต่างหรือความใกล้เคียงระหว่างแบรนด์ สามารถอ่านได้โดยง่ายทำให้สามารถเห็นถึงความแตกต่างกันระหว่างแบรนด์ได้ทันที

ทำไมต้องใช้ Perceptual Mapping?
  1. ช่วยให้เข้าใจภาพรวมตลาดและตำแหน่งของแบรนด์เราเทียบกับคู่แข่ง
  2. ค้นหาโอกาสที่ยังไม่มีใครครอบครอง เช่น กลุ่มที่ยังไม่มีแบรนด์ใดเข้าไปยืน
  3. ระบุได้ว่าเราควรปรับตัวอย่างไร หากอยากย้ายตำแหน่ง perception ในใจลูกค้า
  4. ช่วยในการสื่อสารการตลาดให้ตรงจุด เพราะรู้ว่าลูกค้ามองอะไรเป็นจุดแข็งของเรา

ขั้นตอนการทำ Perceptual Mapping

1. ตั้งคำถามหลัก

ก่อนจะเริ่ม คุณต้องรู้ก่อนว่าต้องการเข้าใจ perception ด้านไหน เช่น

  • ลูกค้ามองว่าเราให้คุณภาพคุ้มกับราคาหรือไม่
  • เทียบกับแบรนด์อื่น เราโดดเด่นตรงไหน
  • ลูกค้าคิดว่าแบรนด์เราทันสมัยหรือเชย

คำถามพวกนี้จะเป็นแนวทางในการเลือกแกนของแผนที่

2. เลือกแกนที่ใช้ในการเปรียบเทียบ

แผนที่ Perceptual Map มักจะมี 2 แกน (แนวนอนและแนวตั้ง) ตัวอย่างเช่น:

  • ราคา (ถูก – แพง)
  • คุณภาพ (ต่ำ – สูง)
  • ภาพลักษณ์ (ทั่วๆ ไป – พรีเมียม)
  • ความเป็นที่รู้จัก (ไม่คุ้น – คุ้นมาก)

เลือกแกนที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมการเลือกซื้อของกลุ่มเป้าหมาย

3. เลือกแบรนด์เปรียบเทียบ

ควรรวมแบรนด์ของคุณและคู่แข่งที่อยู่ในใจลูกค้า 4–7 แบรนด์ เพื่อให้การเปรียบเทียบมีความสมดุลและเห็นความแตกต่างได้ชัดเจน

4. เก็บข้อมูล perception จากลูกค้า

ใช้วิธีใดวิธีหนึ่งในการหาข้อมูล:

  • แบบสอบถามให้คะแนนแต่ละแบรนด์ตามแกนที่เลือก
  • การสัมภาษณ์กลุ่มเป้าหมาย
  • วิเคราะห์จากรีวิวหรือคอมเมนต์ของลูกค้าจริง

ข้อมูลที่ได้จะกลายเป็นพิกัดที่วางไว้บนแผนที่

5. สร้างแผนที่

นำข้อมูลจากลูกค้ามาพล็อตลงบนกราฟสองแกน เพื่อให้เห็นว่าแบรนด์ต่างๆ ถูกมองไว้อย่างไร และแบรนด์ไหนอยู่ใกล้หรือห่างจากกันมากแค่ไหน

6. วิเคราะห์ผล
  • ถ้าแบรนด์คุณอยู่ใกล้คู่แข่งที่ภาพลักษณ์ไม่ดี → ต้องรีบขยับออก
  • ถ้าแบรนด์คุณอยู่ในจุดที่ไม่มีใครอยู่ → อาจเป็นโอกาสในการสร้างจุดขายใหม่
  • ถ้าคุณอยู่ใกล้แบรนด์ที่ลูกค้ารัก → คุณอาจมีข้อได้เปรียบเรื่องการสื่อสารร่วม

ตัวอย่าง

Perceptual Mapping: ผงซักฟอกในมุมมองผู้บริโภค

วัตถุประสงค์

ผงซักฟอกเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง ทั้งแบรนด์เก่า แบรนด์ใหม่ ทั้งกลุ่มพรีเมียมและราคาประหยัด
เราต้องการเข้าใจว่า ผู้บริโภครับรู้แบรนด์ต่างๆ อย่างไร เพื่อนำไปสู่การวางกลยุทธ์ด้านสินค้า การสื่อสาร และการพัฒนาตลาด

กำหนดแกนของแผนที่
แกนแนวนอน (X)แกนแนวตั้ง (Y)
ราคาประหยัด ← → ราคาสูง/พรีเมียมประสิทธิภาพการซัก (คราบออกยาก) ← → ซักทั่วไป/กลิ่นหอม
แบรนด์ที่นำมาเปรียบเทียบ
  1. บรีส เอกเซล (Breeze Excel) – เน้นคราบหนัก ซักสะอาดลึก
  2. โอโม พลัส (Omo Plus) – ครอบคลุม ซักสะอาด หอม
  3. เปา เอ็มวอช (PAO M-Wash) – ซักเร็ว ซักง่าย เหมาะกับคนเมือง
  4. แอทแทค 3D (Attack 3D) – กลิ่นหอม พลังซักดี
  5. ไฮยีน (Hygiene) – เน้นความหอมและฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
  6. ยี่ห้อบ้านๆ (เช่น ตรานกแก้ว, ตราฟ้าไทย) – ราคาถูก ซักทั่วไป
  7. แบรนด์ของคุณ: “CleanMax Pro” – สูตรใหม่ เน้นคราบฝังแน่น กลิ่นหอมอ่อนๆ ราคาอยู่กลาง ๆ
วิเคราะห์ภาพรวม
แบรนด์ราคาประหยัด ←→ พรีเมียมคราบหนัก ←→ ซักทั่วไป
Breeze Excelปานกลาง-สูงคราบหนัก
Omo Plusปานกลางปานกลาง
PAO M-Washกลางคราบทั่วไป
Attack 3Dสูงปานกลาง
Hygieneปานกลาง-สูงเน้นกลิ่น/ความสะอาดพื้นผิว
ตรานกแก้วต่ำซักทั่วไป
CleanMax Proกลางคราบหนัก
วางตำแหน่งลงแผนที่
  • มุมบนขวา (แพง + ซักคราบหนัก): Breeze Excel, CleanMax Pro (ใกล้กัน)
  • มุมล่างขวา (แพง + ซักทั่วไป/กลิ่นหอม): Attack 3D, Hygiene
  • มุมล่างซ้าย (ถูก + ซักทั่วไป): ตรานกแก้ว, ตราฟ้าไทย
  • กึ่งกลาง: Omo Plus, PAO – เป็นแบรนด์ครอบคลุม
วิเคราะห์ Insight จากแผนที่
  • ตลาดฝั่ง ซักคราบหนัก + พรีเมียม ยังไม่แออัด → CleanMax Pro มีโอกาสเติบโตได้ดี ถ้าทำการตลาดที่เชื่อมกับ คุณแม่บ้านยุคใหม่ หรือคนที่ทำงานนอกบ้านเยอะ
  • ตลาดฝั่ง หอม + พรีเมียม เริ่มแน่น → ถ้าจะไปสายนี้ต้องมี จุดขายเฉพาะ เช่น หอมแบบอโรม่า หรือฆ่าเชื้อโควิด
  • ตลาดฝั่งราคาถูกยังคงมีพื้นที่ใน กลุ่มต่างจังหวัดหรือตลาดชุมชน
กลยุทธ์ที่ต่อยอดจาก Perceptual Mapping
  • หาจุดที่ยังไม่มีใครยืนอยู่ชัด ๆ → เช่น ซักคราบหนัก + กลิ่นหอมธรรมชาติ
  • ขยับภาพลักษณ์แบรนด์ ผ่านการออกสินค้าใหม่ หรือแคมเปญ (เช่น CleanMax Pro ออกสูตรซักผ้าขาว + ปลอดสารเรืองแสง → ตอบโจทย์แม่ๆ ยุคใหม่)
  • ใช้ Perceptual Map เป็นพื้นฐานเพื่อทำ Brand Positioning Statement ที่ชัดเจน

สามารถเข้าไปดูบทความอื่นๆ ได้ที่: https://rdbi.co.th/blog/

ปรึกษาหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

เพจ: http://bit.ly/rdbipage
Facebook: https://www.facebook.com/RandDBI/
Line OA: @rdbi
Tel: 02-681-9700
อีเมล์: sales@rdbi.co.th🌟

Share this post:
Facebook
Twitter
LinkedIn
WhatsApp

Discover more articles